
คำถาม : แบบผงที่เป็นซอง กับ แบบแคปซูล ต่างกันอย่างไร..??
ตอบ : เป็นสมุนไพรรายการเดียวกันทั้งหมด แต่ต่างกันด้วยลักษณะนำไปใช้งาน แบบซองเป็นผงผสมน้ำราดพื้น ถูพื้น แบบแคปซูลใช้กิน
คำถาม : แล้วแบบผงสมน้าราดพื้นถูพื้น มีอันตรายมั๊ย และสัตว์เลี้ยงกินได้หรือเปล่า...??
ตอบ : ส่วนผสมเป็นสมุนไพรไทย 100% ไม่มีเคมี ไม่มียาปฏิชีวนะ ไม่มีมันตรายต่อสิ่งมีชีวิตใดๆ คนกินได้ สัตว์เลี้ยงกินได้ แต่แนะนำว่าสมุนไพรมีกลิ่นแรงการให้สัตว์เลี้ยงกินจะกินยาก ใช้แบบแคปซูลกินจะได้ผลกว่า
คำถาม : แล้วนำแบบผงไปผสมอาหารให้สัตว์เลี้ยงกินได้หรือเปล่า..??
ตอบ : กินได้ แต่ไม่ค่อยอยากจะแนะนำ เพราะที่แจ้งในข้อที่แล้วสมุนไพรมีกลิ่นแรงมาก สัตว์เลี้ยงจะไม่กินอาหาร
คำถาม : ใช้แบบผงผสมน้ำอาบแทนการกินได้หรือเปล่า..??
ตอบ : อาบได้ แต่แนะนำว่า การอาบเป็นเพียงแค่การทุเลาอาการภายนอกไม่ทำให้หายจากอาการป่วยได้ การกินเท่านั้นถึงจะทำให้หายจากอาการป่วยต่างๆ
คำถาม : สมุนไพรในแคปซูลเม็ดใหญ่หรือเปล่า สัตว์เลี้ยงจะกินได้มั๊ย ..??
ตอบ : เม็ดขนาดแคปซูลเบอร์ 1 ขนาดเม็ดเส่นผ่านศูนย์กลาง ประมาณ 2 ม.ม ยาวประมาณ 10 ม.ม เม็ดเล็กมาก ก่อนกินจุ่มน้ำให้ลื่น เป็นแคปซูลข้าจ้าว จะลื่นง่ายต่อการกลืนของสัตว์เลี้ยง
คำถาม : สมุนไพรชุดนี้รักษาบำบัดอาการหายขาดหรือเปล่า...??
ตอบ : กินต่อเนื่อง และมีวินัยการใช้งานอย่างเคร่งครัดต่เนื่อง อาการหายขาด แต่มีคำแนะนำเพิ่มถึงแม้หายแล้วก็ต้องกินต่เนื่องเพื่อไม่ให้โรคเก่าย้อนมากำเริบได้อีกในอนาคต
คำถาม : แล้วกินระยะนานไม่มีผลกระทบเสียต่อร่างกายหรือสะสมในร่างกายสัตว์เลี้ยงหรือ..??
ตอบ : การกินสมุนไพร ไม่ต่างอะไรกับเรากินพิช ผัก เพราะสมุนไพรคือพืชผักที่กินได้และมีสรรพคุณทางยา ร่างกายจะดูดซับเอาสรรพคุณไปใช้งานและแยกกากออกมาทางการขับถ่าย จะไม่มีการสะสมในร่างกาย เพราะสรรพคุณจะหมดไปกับการใช้งานของร่างกายอยู่แล้ว
คำถาม : แล้วต้องให้กินนาเท่าไหนถึงจะหยุดกินได้..??
ตอบ : กินการกินสมุนไพร ที่ 4 กระปุกต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการดื้อยาคือหลักสำคัญ แต่ผลที่ได้จากกินต่อเนื่อง 4 กระปุก ก็อาจจะทำให้หายจากอาการป่วย หรือเข้าใกล้เคียงคำว่าหาย แต่หลังจากหมด 4 กระปุกไปแล้วจะหยุดให้กินต่อก็สามารถทำได้ แต่จะแนะนำว่าการกินสมุนไพรเพื่อการบำบัด ลักษณะคือการสะสมสรรพคุณในร่างกายเขาเพื่อให้เกิดการบำรุงและบำบัดรักษา เมื่อคุณหยุดให้กิน นั่นก็จะหมายถึง สรรพคุณทีเติมไว้ก็จะลดลงเรื่อยๆ อาจจะลดจนไม่มีสรรพคุณคงค้างในร่างกายเลยถ้าหยุดนานๆ สิ่งแรกที่จะเห็นคือ เห็บหมัดจะกลับมากินเลือดได้ และเชื้อโรคที่ถูกบีบให้อยู่ในขีดจำกัดการเจริญเติบโต เมื่อร่างกายขาดสมุนไพรในการเพิ่มหรือรักษาภูมิต้านทานเขาหมดไป ภูมิต้านทานก็อาจจะลดลงตามได้ โอกาสที่เชื้อโรคเหล่านั้นจะเจริญเติบโตกลับมา ก็เป็นไปได้สูง
คำถาม : แล้วถ้าสัตว์เลี้ยงไม่มีอาการป่วยใดๆ จะกินได้หรือเปล่า..??
ตอบ : กินได้ เพราะสมุนไพรชุดนี้ทั้งชุดจะช่วยปรับสมดุลร่างกายให้มีภูมิคุ้มกันโรค ปรับให้ร่างกายมีความแข็งแรงให้ต่อต้านเชื้อโรคต่างๆได้ป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงเกิดอาการเจ็บป่วยจากเชื้อโรคต่างๆในอนาคต
คำถาม : กินสมุนไพรแล้วกี่วันถึงจะเห็นผล หรือหายจากอาการป่วย..??
ตอบ : ระยะเวลาเห็นผล หรือระยะการหายไม่สามารถตอบให้ชัดเจนได้ เพราะมีปัจจัยหลายอย่าง อาทิ ขนาด น้ำหนัก วัย สายพันธุ์ และความรุรชนแรงของเชื้อโรค ระเวลาจึงแตกต่างกัน สัตว์เลี้ยงตัวเล็กก้อาจจะแสดงผลเร็วกว่าสัตว์ใหญ่ แต่ท้ายสุดแล้วถ้ากินต่อเนื่องแล้วทุกตัวจะหายจากอาการป่วยแน่นอน 100%
คำถาม : มีข้อห้ามอะไรหรือเปล่าเช่น ห้ามกินไก่ ห้ามกินตับ อย่างนี้เป็นต้น..??
ตอบ : ไม่มีข้อห้ามการกินใดๆทั้งสิ้นในการกินอาหาร แต่ อย่าใช้สมันไพรร่วมกับยาปฏิชีวนะ หรือ ยาฉีด ยาหยอด หรือยาที่หมอให้มา
คำถาม : หมาท้องแก่ หมาตัวเล็ก กินได้หรือเปล่า และถ้ากินได้ให้กินขนาดเท่ากันหรือเปล่า..??
ตอบ : การกินสมุนไพรเพื่อการบำบัดรักษา คือการสะสมสรรพคุณในร่างกาย ทุกขนาด เล็ก ใหญ่ ทุกวัย ทุกสายพันธุ์ ท้องแก่ แรกเกิดให้กินปริมาณเท่ากันหมด แต่ระยะการแสดงผลต่างกัน ตัวเล็กจะเร็ว ตัวใหญ่ก็จะช้ากว่าตัวเล็ก การกินไม่จำกัดจะก่อนหรือหลังอาหาร แต่ขอให้กินตามปริมาณที่กำหนดไว้
คำถาม : สัตว์กินได้ แสดงว่าคนก็ต้องกินได้ใช่มั๊ย แล้วคนกินแก้อาการอะไรหล่ะ..??
ตอบ : กินได้ สัตว์กินได้ คนก็กินได้ คนกินแก้อาการโรคสะเก็ดเงิน โรคน้ำเหลืองพุพอง โรคไฟลามทุ่ง โรคงูสวัด และ โรคกระเพาะเรื้อรัง ได้ผลชะงัดนักแล
หมายเหตุ : หากท่านมีข้อสงสัยอื่นๆกรุณาติดต่อสอบถาม กันได้ที่ ติดต่อเรา